วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

sumo paint โปรแกรม online อย่างกะ Photoshop

วันนี้ขอแนะนำเวปโปรแกรม online มาให้ลองใช้กันครับ
สำหรับคนที่ไม่อยากลงโปรแกรม Photoshop ไว้ให้หนักเครื่อง


ลักษณะการใช้งานก็ง่ายๆ ลองเข้าไปเล่นดูนะครับ


หน้าตาของโปรแกรม






เข้าไปลองเล่นได้ที่นี่ครับ

http://www.sumo.fi/products/sumopaint/index.php?id=0

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551

พรีเดเตอร์(Predator)พรานนักล่า!!!


พรีเดเตอร์ คืออะไร?

- พรีเดเตอร์ หรือ ย้วดจา (Yautja) เป็นเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่มีเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง โดยพวกเขาจะชื่นชอบการล่าเป็นชีวิตจิตใจ ในแต่ละวัน พวกมันจะเดินทางไปยังดวงดาวแต่ละดวง เพื่อแสวงหาคู่ต่อสู้ที่คู่ควร ในสังคมของย้วดจาจะแบ่งเป็นแคลนต่างๆ แต่ละแคลนจะมีผู้นำของตน ทางกายภาพย้วดจาเป็นนักปืนป่ายที่เก่งกาจ มีร่างกายที่ยืดหยุ่นต่ออาการเจ็บปวด หูของมันยังแยกแยะเสียงได้อย่างหลากหลาย และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงพอที่จะใช้มือต่อยคอนกรีตให้แหลกได้ อีกทั้งยังสามารถกระโดดได้สูงอีกด้วย พวกเขาจะคล่องแคล่วเป็นพิเศษเมื่อเคลื่อนที่ผ่านที่สูงอย่างต้นไม้ หรือหลังคาบ้าน การมองเห็นพื้นฐานของย้วดนั้นเป็นสีดำแดง มันสามารถรับรู้ความร้อนที่ออกมาจากร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ แต่การมองเห็นนี้ก็มีข้อจำกัดมากมาย ร่างกายของพวกมันต้องการออกซิเจนมากกว่ามนุษย์ 1% และไนโตรเจนมากกว่ามนุษย์ 4% แม้บรรยากาศบนโลกมนุษย์จะไม่ทำให้พวกมันถึงตาย แต่ย้วดจาที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศบนโลกอาจจะต้องสวมหน้ากากไว้ตลอดเวลา

ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ , พรีเดเตอร์ และซีโนมอร์ฟ
- พรีเดเตอร์เดินทางยังโลกครั้งแรก เมื่อ 2997 ปีก่อนคริสตกาล บนทวีปที่ปัจจุบันคือ แอนตาร์กติกา พรีเดเตอร์ได้มอบความรู้ในการก่อสร้าง และวัฒนธรรมต่างๆ ให้แก่มนุษย์ และมนุษย์ก็ยกย่องเคารพพวกเขาในฐานะเทพเจ้า ในทางกลับกันมนุษย์จะทำพิธีบูชายัญต่อเทพเจ้าเป็นการตอบแทน ซึ่งการบูชายัญเหล่านี้ คือ การเป็นร่างฝักตัวให้กับซีโนมอร์ฟนั้นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างซีโนมอร์ฟ และย้วดจาไม่ทราบแน่ชัด แต่อย่างไรก็ตามอารยธรรมของย้วดจาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาหลังยุคของ Space jockey สิ่งที่เป็นไปได้ คือ พวกเขาค้นพบซีโนมอร์ฟบนดาวเคราะห์ที่ใดสักแห่ง ด้วยความแข็งแกร่ง ดุร้าย และคุณสมบัติที่ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตใด คือ การเปลี่ยนแปลง DNA ไปตามโฮสต์ที่ฝักตัว ทำให้มันกลายเป็นสัตว์ยอดนิยมที่ถูกใช้ในเกมส์กีฬาของพวกย้วดจา เพราะ ซีโนมอร์ฟที่ฝักตัวในสิ่งมีชีวิตจะได้รับคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิตนั้นมาด้วย นั่นหมายความว่า ซีโนมอร์ฟที่ฝักตัวในสิ่งมีชีวิตที่ต่างกัน จะมีวิธีรับมือที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งถือว่า เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่แอนตาร์กติกานั้น พวกย้วดจาจะส่งนักรบฝึกหัดมาเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะทุกๆร้อยปี เมื่อนักรบฝึกหัดสามารถสังหารซีโนมอร์ฟได้ พวกเขาจะนำเลือดที่เป็นกรดของมันมาทาเป็นสัญลักษณ์ลงบนหน้ากาก และหน้าผากของตน ยิ่งหน้ากากมีลวดลายมากเท่าใด นั้นแสดงให้เห็นว่า ย้วดจาตัวนั้นผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน และมีฐานะทางสังคมอันสูงลิ่ว แต่แล้ว พิธีกรรมครั้งหนึ่งก็จบลงด้วยการนองเลือด เมื่อซีโนมอร์ฟหลุดรอดออกไปนอกพีระมิดพร้อมกับไข่ราชินี นั้นทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่จนคุมไม่อยู่ พวกซีโนมอร์ฟได้เพิ่มจำนวนจนครอบคลุมทั้งทวีป และในเวลาอีกไม่นานจะเป็นโลกทั้งใบ ย้วดจาหลายตัวลงมาช่วยหยุดยั้งหายนะที่เกิดขึ้น แต่สุดท้าย พวกเขาก็ถูกสังหารเรียบ พวกเขาจึงตัดสินใจยุติปัญหาขั้นเด็ดขาด คือ การใช้ระเบิดนิวเคลียร์กวาดล้างทั้งทวีปไปพร้อมกับทุกชีวิตบนพื้นแผ่นดินนั้น เมื่อเรื่องยุติลง ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ และย้วดจาก็ได้จบลง มนุษย์เพียงหยิบมือที่รอดชีวิตก็ได้แยกย้ายกันไปก่อตั้ง 3 อารยธรรมใหญ่ตามความรู้ที่ได้รับการสืบทอดมาจากย้วดจา บนทวีปที่แตกต่างกัน อันได้แก่ อียิปต์ในทวีปแอฟริกา แอซแท็คในทวีปอเมริกา และกัมพูชาในทวีปเอเชีย ในปัจจุบัน ย้วดจามองมนุษย์เป็นเพียงแค่เหยื่อสำหรับการล่า แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมแคลนของย้วดจาด้วยเช่นกัน หากคนๆนั้น แสดงความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญให้เป็นที่ประจักษ์ได้ มนุษย์ยังสามารถเลื่อนตำแหน่งจนเป็นถึงผู้นำแคลนได้ด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า ย้วดจาไม่ได้เป็นนักล่าที่ไร้เหตุผล แต่พวกเขาเคารพความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญเหนือความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์ (แต่ก็มีบางตัวที่เป็นพวกเหยียดเผ่าพันธุ์ และชอบฆ่าไม่เลือกหน้าเหมือนกัน ซึ่งก็คงคล้ายๆสังคมมนุษย์ที่มีหลากหลายอารมณ์ และอุปนิสัยนั่นแหละ)

เกียรติยศและศักดิ์ศรีนักล่า
- สำหรับพรีเดเตอร์ถือว่า หน้ากากเป็นตัวแทนของตน พรีเดเตอร์แต่ละตัวจะมีหน้ากากเพียงชิ้นเดียว และจะอยู่ติดตัวไปจนวันตาย การถูกแย่งชิง หรือ ทำหาย(ข้อนี้ไม่น่าจะมี) เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ และเสื่อมเสียเกียรติเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ในการล่าแต่ละครั้ง พรีเดเตอร์จะมีการถลกหนัง และตัดศีรษะของเหยื่อเพื่อแสดงถึงอำนาจ และอวดความสามารถของตนอีกด้วย ยิ่งเหยื่อดุร้าย แข็งแกร่งมากเท่าไร เกียรติยศที่ได้ก็ยิ่งเพิ่มมากตามไปด้วย หนึ่งในกะโหลกที่มีเกียรติสูงสุด และคู่ควรแก่การครอบครองมากที่สุด คือ กะโหลกศีรษะของซีโนมอร์ฟ หรือ เอเลี่ยนที่พวกเรารู้จักกันนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็มีเกียรติและศักดิ์ศรีอยู่เหมือนกัน โดยพวกเขาจะไม่ล่าสัตว์ที่ยังเยาว์วัย รวมไปถึงสัตว์ที่กำลังท้อง เครื่องหมายทางเกียรติยศอีกอย่างหนึ่งของพวกเขา คือ นากินาตะ (Naginata) รูปร่างของมันคล้ายหอก มันเป็นได้ทั้งอาวุธ และเครื่องหมายที่แสดงถึงยศฐานบรรดาศักดิ์ ในกลุ่มย้วดจาชั้นสูงจะมีนากินาตะที่สร้างขึ้นอย่างประณีต และสวยงามกว่าชนชั้นทั่วไป

หมายเหตุ : เมื่อดูจากพรีเดเตอร์ทั้งสองภาค เราจะเห็นได้ว่า เหยื่อส่วนใหญ่เป็นมนุษย์ที่มีการฝึกฝนอย่างเช่น ทหาร หรือ โจรที่แสดงถึงความดุร้ายและป่าเถื่อน ไม่ค่อยได้เห็นพรีเดเตอร์ล่าชาวบ้านธรรมดาที่ปราศจากอาวุธกัน นั้นแสดงให้เห็นว่า สัตว์ยิ่งดุร้ายและอันตรายมากเท่าใด ยิ่งคู่ควรแก่การล่ามากเท่านั้น


ลำดับบรรดาศักดิ์ของเหล่านักล่า


- Non hunters หรือ ผู้ที่ไม่ใช่นักล่า ในสังคมของย้วดจาไม่ใช่ทุกตัวที่ชื่นชอบการล่า กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยออกล่าด้วยเหตุผลต่างๆนานา (บางตัวอาจเพราะ ความกลัว หรือพูดง่ายๆว่า ขี้ขลาด -_-”) พวกเขาเป็นพวกที่สังคมรังเกียจ และมียศต่ำที่สุดในทางสังคม แต่ถึงกระนั้นนี้ก็ยังไม่ใช่กลุ่มคนที่เลวร้ายที่สุดของเผ่าพันธุ์ ซึ่งจะกล่าวต่อไป

- Unblooded เป็นย้วดจารุ่นเยาว์ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้ว และเตรียมเข้าสู่พิธีบรรลุนิติภาวะ (พรีเดเตอร์สามหน่อ ที่ยกขโยงกันมาใน AVP ภาค 1 อยู่ในกลุ่มนี้แหล่ะ) โดยพวกเขาจะต้องผ่านการล่าจริงหนึ่งครั้ง จึงจะได้เลื่อนยศเป็น Blooded อย่างเต็มตัว - Blooded เมื่อผ่านการทดสอบมาแล้ว ย้วดจาคนนั้นจะได้เข้าร่วมกับแคลนของพวกเขา ในระหว่างนี้ พวกเขาจะเริ่มต้นการล่าอย่างจริงๆจังๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์

- Warriors ย้วดจาในกลุ่มนี้เป็นพวกนิยมความรุนแรง รักสันโดษ พวกเขาไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับแคลน และออกมาล่าตัวคนเดียว ย้วดจาในกลุ่มนี้ มักจะมีทักษะสูง และเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ (ไม่งั้นคงไม่กล้าออกมาสดเดี่ยวหรอกจริงไหม) หมายเหตุ : พรีเดเตอร์ตัวที่ซัดกับอาร์โนลด์ ในภาค 1 น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้

- Honoured เป็นกลุ่มสังคมของย้วดจาชั้นหัวกะทิ ย้วดจาในกลุ่มนี้ล้วนผ่านการล่ามากว่า 100 ครั้ง มีประสบการณ์สูง โดยแต่ละคนจะมีนากินาตะอันงดงามประจำตัวอยู่

- Elders ย้วดจาในกลุ่มนี้ คือ นักล่าในระดับสุดยอด ย้วดจาในตำแหน่งนี้จะเป็นผู้นำของกลุ่มแคลนนั้นๆ แต่ละคนล้วนผ่านการล่ามามากกว่าพันครั้ง มีกะโหลกศีรษะเก็บสะสมไว้เป็นโกดัง และมักจะมีกะโหลกของควีนเอเลี่ยนไว้ประดับฝาบ้าน ย้วดจาเหล่านี้มักสวมผ้าคลุมสีแดงไว้บ่งบอกถึงฐานะอีกด้วย


- Arbitrators ย้วดจาเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนตำรวจที่คอยดูแลรักษาความเรียบร้อยต่างๆ และคอยคุ้มกันย้วดจาชั้น Elders อยู่ข้างๆ

- Bad bloods หากพรีเดเตอร์ที่คุณรู้จัก คือ เหล่านักล่าผู้มีเกียรติ และศักดิ์ศรี กลุ่มย้วดจาเหล่านี้จะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณรู้จักทั้งสิ้น Bad bloods คือ กลุ่มย้วดจาที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ไม่สนใจในกฎเกณฑ์ และศักดิ์ศรีใดๆทั้งสิ้น พวกมัน คือ จุดด่างพร้อยของเผ่าพันธุ์ และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเหล่า Arbitrators ที่คอยตามล่าย้วดจานอกรีตเหล่านี้


ภาษาของเหล่าย้วดจา


บทบาทของเหล่าย้วดจาเพศเมีย

ในสังคมย้วดจา เพศเมียจะทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกอยู่บนดาวบ้านเกิด หรือบนยานแม่ แต่อย่าคิดว่า พวกเธอทำอะไรไม่เป็นน่ะ ในสังคมของย้วดจาก็เปิดโอกาสให้ผู้หญิงเหล่านี้ได้มีโอกาสล่าเพื่อ Trophies ของตนเองเหมือนกัน กล่าวกันว่า ย้วดจาเพศเมียแข็งแรงกว่าเพศผู้เสียอีก บางตัวมีการสังหารคู่สมรสของตนด้วย (จากข้อความดังกล่าว ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานว่า ย้วดจาหลายตัวน่าจะเป็นพวกกลัวเมีย) แคลนของเพศเมียจะประกอบไปด้วยลูกสาว แม่ และย่า และในกลุ่มแคลนนักล่าหลายกลุ่มมีเพศเมียเป็นผู้นำ เพียงแต่เพศเมียไม่ชอบออกล่าเพื่อเกียรติยศแบบเพศผู้ซักเท่าไร


ยานอวกาศของเหล่าย้วดจา
MAN’DACA – Migratory Craft หรือแปลตรงตัวว่า ยานอพยพ

ภายในยานแมนดาคา ประกอบไปด้วยนักล่า รวมไปถึงสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาตั้งแต่เด็กไปจนถึงเพศเมีย และมักจะมีช่างซ่อม-ตีอาวุธอยู่ด้วย แต่ละแคลนจะมียานรูปร่างแตกต่างกัน ยานแมนดาคาไม่ค่อยลงจอดที่พื้นผิวดวงดาว นอกจากเวลาเกิดสงคราม ตัวยานแบ่งได้เป็นสองชั้นหลักๆ ที่ชั้นล่างจะค่อนข้างสกปรก ไม่มีที่นอน ใช้เป็นที่เตรียมอาหาร ส่วนชั้นบนจะกว้างขวาง สะดวกสบาย และมีห้องพัก ย้วดจาที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในยานลำนั้น จะได้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเพื่อเริ่มต้นการออกล่า ในบางครั้งก็สร้างสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นมาเอง โดยในยานแมนดาคาจะมีไข่ของซีโนมอร์ฟเก็บอยู่ (ในยานบางลำอาจจะมีควีนอยู่ด้วย) ย้วดจาจะค้นหาดวงดาวที่เหมาะสม ต่อจากนั้น จะให้หุ่นดรอนนำไข่ประมาณ 6-12 ฟอง ลงไปยังพื้นผิวดวงดาว และรอคอย เมื่อซีโนมอร์ฟเจริญสู่ขั้นสุดท้าย หุ่นดรอนจะส่งสัญญาณกลับมายังยานแมนดาคา เหล่านักล่าผู้เตรียมพร้อมอยู่จะถูกส่งไปยังพื้นผิวดวงดาวด้วยกระสวยขนาดเล็ก และเริ่มต้นการล่า


NER’UDA เนอร์อุดาเป็นกระสวยขนาดเล็กสำหรับ 1 ที่นั่ง ใช้เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศ ก่อนจะถูกส่งออกจากยานแมนดาคา มันจะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แน่นอนสำหรับการลงจอด ในระหว่างเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศมันจะเปลี่ยนทิศทางไม่ได้จนกว่าจะลงถึงพื้น ตัวยานนำมาใช้ใหม่ได้ และสามารถเดินทางออกพ้นแรงดึงดูดของโลกในเวลาไม่ถึง 2 นาที แต่ไม่สามารถล่องหนได้เหมือนยานแมนดาคา และยานแม่

JAG’D’JA ATOLL – The Mothership ในบางครั้งที่ต้องล่าในดินแดนที่ห่างไกลจากดาวบ้านเกิดมากๆ ยานเหล่านี้จึงได้ถูกสร้างขึ้น มันคือสุดยอดเทคโนโลยีทางอวกาศของเหล่าย้วดจา ยานแม่เป็นยานอิสระ และมีขนาดใหญ่โตอย่างน่าเหลือเชื่อ ภายในยานเปรียบได้กับเมืองขนาดเล็ก มีทั้งท่าเรือที่มียานแมนดาคานับร้อยๆลำตั้งตระหง่านอยู่ ร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงที่ทำการแคลน มีย้วดจามากกว่า 500 ตัวมา และไป อยู่เกือบตลอดเวลา สำหรับย้วดจาที่ต้องออกมาผจญภัยสุดโพ้นกาแล็กซี่แล้วเกิดอาการโฮมซิก มันเปรียบเหมือนบ้านที่ให้กลับมาพักผ่อนหย่อนใจ (บางตัวก็เป็นศพกลับมา) ที่แห่งนี้ เหล่าย้วดจายังสามารถหาซื้ออาวุธใหม่ๆ หาคู่ออกเดท รวมไปถึงแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างกัน ยานแม่มักไม่เคลื่อนที่ไปจากจุดเดิมนัก ตัวยานยังติดตั้งเทคโนโลยีล่องหนไว้ด้วย


อุปกรณ์ต่างๆที่ติดตั้งบนยาน

1. Radar blanketing : ยานของย้วดจาจะมีระบบป้องกันการตรวจจับโดยเรดาห์ โดยยานจะไม่ปรากฎบนเรดาห์ทุกชนิด ยกเว้น เซนเซอร์พิเศษของมนุษย์ที่ติดไว้กับยานรบชั้น Conestoga หรือสูงกว่าเท่านั้น (ยานรบมี 3 คลาส ได้แก่ Conestoga,Bougainville และ Razzia)

2. Ghost Imager : ยานทุกชนิดสามารถรบกวนระบบจับเป้าของมิซไซล์ และสามารถหลบหลีกมันได้อย่างไม่ยากเย็น

3. Turbocharger : ยานทุกชนิดสามารถบูสระบบ และเร่งความเร็วได้สามครั้ง (ลองนึกถึงไนโตรที่ใช้ในรถแข่ง คล้ายๆกัน) ยานเหล่านี้สามารถเร่งความเร็วได้เป็นสองเท่า เพียงแต่การบูสแต่ละครั้งจะมีผลแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น (3 คูณ 1 รวมแล้ว เร่งความเร็วได้ 3 ชั่วโมง)

4. Reflective coating : อุปกรณ์ตัวนี้สามารถป้องกันความเสียหายจากเลเซอร์ได้ลงครึ่งหนึ่ง แต่ไม่มีผลต่ออาวุธพลาสมา

5. Environment Protection : ยานของย้วดจาสามารถป้องกันผลจากสภาพแวดล้อมต่างๆได้ ทำให้พวกมันสามารถเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศของโลก ดวงอาทิตย์ รวมไปถึงใต้น้ำได้

6. Remote Operation : ยานแต่ละลำมีระบบนักบินอัตโนมัติ แม้จะยิงปืนใหญ่โดยอัตโนมัติไม่ได้ แต่ตัวยานก็สามารถเดินทางหลบสิ่งกีดขวางต่างๆได้อย่างสบาย ในกรณีที่ไม่มีย้วดจาอยู่บนยาน ตัวยานเองสามารถรับคำสั่งให้ลงจอดทางรีโมทจากย้วดจาที่อยู่บนพื้นผิวดวงดาวได้

7. Mass Destruct Sequence : เมื่อถึงคราวจำเป็น ตัวยานสามารถทำลายตัวเองได้ ด้วยการเร่งปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ โดยย้วดจาต้องควบคุมระบบนี้ทางรีโมท หรือป้อนคำสั่งโดยตรงจากบนยานเท่านั้น แรงระเบิดจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมี 1 กิโลเมตรจนราบคาบ

8. Self-Destruct : ระบบนี้ทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อย้วดจาเจ้าของยานตายลง ตัวยานจะทำลายตัวเองทันที เพียงแต่ยานจะไม่เกิดการระเบิดเหมือน Mass Destruct Sequence แต่จะสลายไปแบบไร้ร่องรอย


9. Targeting Analyzer : ระบบนี้ช่วยให้ย้วดจาสามารถสแกนยานของฝ่ายตรงข้าม เพื่อตรวจสอบความสามารถในการรบ รวมไปถึงสัญญาณชีวิตภายในยานลำนั้นได้


ข้อมูลอุปกรณ์ของย้วดจา

- Bio mask (หน้ากากชีวภาพ)

หน้ากากของพรีเดเตอร์ นอกจากเป็นเครื่องหมายของเกียรติยศแล้ว ยังถือได้ว่า เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากชิ้นหนึ่ง หน้ากากของย้วดจาติดตั้งอุปกรณ์ไว้มากมาย ทั้งหน้ากากกันแก๊ซพิษ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องแปลภาษา เครื่องขยายเสียง ระบบซูมและขยายภาพ

อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับตรวจสอบเหยื่อของมัน ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์สแกนที่จะปล่อยรังสี X-ray ออกมา ในกรณีเหยื่อที่มันตรวจพบกำลังตั้งครรภ์ มันจะละเว้นคนๆนั้นไว้ และออกตระเวณหาเหยื่อคนอื่นต่อไป อุปกรณ์ยังสามารถวิเคราะห์ และตรวจสอบความหนาแน่นของวัตถุต่างๆได้อีกด้วย (ในภาค 2 จะเห็นพรีเดเตอร์กำลังสแกนปืนของเล่นที่เด็กถืออยู่ และผลที่ตรวจสอบได้ คือ ไม่มีภัยคุกคามต่อตัวเอง) รวมไปถึงอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ติดต่อกับย้วดจาตัวอื่นๆ หรือยานของตน นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องส่วนศีรษะไว้อีกด้วย แต่ส่วนที่สำคัญที่สุด คือ หน้ากากเหล่านี้สามาถเปลี่ยนโหมดการมองเห็นได้ ตัวอย่างเช่น Thermal vision หรือโหมดตรวจจับความร้อน สำหรับตรวจจับอุณหภูมิในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่น มนุษย์ และเป็นส่วนที่เราเห็นได้มากที่สุดในภาพยนต์ โหมดที่สำคัญอีกรูปแบบหนึ่ง คือ EM vision เป็นโหมดที่ใช้ตรวจจับกระแสไฟฟ้า และมันถูกใช้เพื่อตรวจจับซีโนมอร์ฟโดยเฉพาะ มีทฤษฎีหลายประการที่ใช้อธิบายการทำงานของมัน เช่น การแยกแยะสเปกตรัมของรังสีอัลตราไวโอเลต หรือใช้การเปลี่ยนแปลงของความดันและความหนาแน่นอากาศเป็นตัวตรวจสอบ (เกิดขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต)

อุปกรณ์เหล่านี้ยังมีระบบเล็งเป้าไว้อีกด้วย เมื่อใช้คู่กับ Plasma cannon หรือ Smart disc ทันทีที่เปิดการทำงาน มันจะจับเป้าของสิ่งมีชีวิตที่ปรากฎในโหมดการมองเห็นนั้นทันที จุดบอดอย่างหนึ่งของโหมดการมองเห็นเหล่านี้ เมื่อเปิดการทำงานของโหมดใดโหมดหนึ่งแล้ว ย้วดจาตัวนั้นจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นได้โดยสิ้นเชิง ทำให้หลายครั้งพวกเขาต้องพลาดท่าในการต่อสู้ที่มีมือที่สามมาเกี่ยวข้อง หน้ากากเหล่านี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า จะช่วยป้องกันการจู่โจมของเฟซฮักเกอร์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ช่วยได้ไม่มากนัก เพราะ การจู่โจมของเฟซฮักเกอร์สามารถทำลายหน้ากากได้อย่างไม่ยากเย็น


ภาพ:Thermal vision












EM vision




- Cloaking device อุปกรณ์ชื้นนี้ใช้หลักการเบี่ยงเบนของแสง ทำให้พวกมันดูโปร่งแสงจนคล้ายกับล่องหน (ปรากฎการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้นได้ในสถานที่มีความร้อนจัด อย่างเช่น ในทะเลทราย เมื่อแสงถูกเบี่ยงเบนออกไปด้วยความร้อน จะเกิดปรากฎการณ์ที่เรียกว่า mirage หรือภาพลวงตานั่นเอง ) แต่วงจรของอุปกรณ์ชิ้นนี้จะเสื่อมสภาพทันทีเมื่อสัมผัสกับน้ำ นอกจากนี้ มันไม่สามารถใช้หลอกตาซีโนมอร์ฟ และสัตว์อื่นๆที่ไม่ใช่การมองเห็นในการตรวจหาศัตรูได้




- Sat-com อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่มีอะไรมากมาย มันเป็นเครื่องตรวจหาตำแหน่ง และแสดงภาพเป็นโฮโลแกรม แต่โดยส่วนใหญ่ทำงานคล้ายกับระบบ GPS ของเรานั่นแหล่ะ



อุปกรณ์ทำความสะอาดกะโหลกไม่รู้จะเรียกชื่อยังไงดี แต่เอาเป็นว่า อุปกรณ์นี้จะช่วยปล่อยเอนไซม์ย่อยเนื้อออกมาละลายผิวหนังจนกะโหลกนั้นเกลี้ยงเกลาสวยงาม

- Wrist blades เป็นอาวุธพื้นฐานที่ย้วดจาทุกตัวต้องมี มันเป็นใบมีดสองคมติดอยู่ที่หลังมือ แต่ละชิ้นจะมีใบมีดประกอบอยู่ 2 หรือ 3 ด้าม และมีความยาว 12-18 นิ้ว นอกจากนี้ มันยังเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ถลกหนังและเลาะกะโหลกของเหยื่อที่ล่าได้ โลหะที่ใช้สร้างค่อนข้างแตกต่างกันในแต่ละอัน จะเห็นว่า Wrist blades ที่พวกพรีเดเตอร์ใน AVP ไม่ทนทานต่อกรดเอเลี่ยน แต่ใน AVP 2 มันสามารถป้องกันกรดได้ ซึ่งเฮีย Celtic (พรีเดเตอร์ตัวที่ใช้ Wrist blades ตัดหางเอเลี่ยน แล้วตัวใบมีดละลาย) คงบ่นตายแหงเลยว่า “ ตูเสียภาษีให้รัฐ แต่เอ็งดันเอาของกะหรั่วมาให้ตูใช้ตอนสอบเลื่อนขั้นเนี่ยนะ ”

- Arm bladesเป็นอาวุธที่ใช้โดยพรีเดเตอร์ที่ชื่อ Chopper หรือ Gill ใน AVP (พรีเดเตอร์ที่โดนหางซีโนมอร์ฟกระซวกตายเป็นรายแรก) มันเป็นใบมีดยาว และมีเพียงด้ามเดียว

- Plasma caster ชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น Tri-cannon , Plasma cannon , shoulder cannon มันเป็นหนึ่งในอาวุธที่อันตรายที่สุดของย้วดจา และจะทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อใช้คู่กับหน้ากากชีวภาพอย่างที่กล่าวไปข้างต้น กระบอกปืนสามารถยิงกระสุนพลาสมาออกมาได้ โดยมีเลเซอร์ไซส์ เป็นจุดสีแดงสามจุด เพื่อเล็งเป้า และยังสามารถชาร์จพลังงานก่อนยิง เพื่อเพิ่มความรุนแรงได้ เพียงแต่ในการยิงแต่ละครั้งมีเวลาดีเลย์เล็กน้อยก่อนจะยิงในครั้งต่อไปได้

- Combi stick หอกชิ้นนี้ถือได้ว่า เป็นอาวุธระยะกลางยอดนิยมของย้วดจา หอกมีแรงตัดสูงที่ทำลายได้แม้กระทั่งเหล็ก อีกทั้งยังสร้างจากวัสดุที่ทนทานต่อกรดของซีโนมอร์ฟอีกด้วย ตัวหอกยังติดตั้งอุปกรณ์เบี่ยงเบนแสง ทำให้ตัวหอกโปร่งแสงได้

- Spear gunปืนชนิดนี้สามารถยิงลูกดอกขนาดเล็กออกมาได้ ตัวปืนสามารถซูมเข้าและออกได้เช่นเดียวกับปืนไรเฟิล อีกทั้งยังไม่มีเสียงดังเกิดขึ้นเมื่อยิงออกไป ทำให้มันกลายเป็นอาวุธชั้นเยี่ยมในการลอบจู่โจมและสังหาร ตัวลูกดอกนั้นทำจากวัสดุพิเศษที่เบาจนแทบไม่มีมวลเลยก็ว่าได้

- Smart discอาวุธคล้ายจานกลมนี้อาจจะดูไร้พิษสง แต่มัน คือ หนึ่งในไม้เด็ดของย้วดจา ตัวจานจะติดตามเหยื่อได้เมื่อใช้คู่กับหน้ากากชีวภาพ แถมยังมีแรงตัดที่สูงมาก มันสามารถเฉือนร่างมนุษย์ และซีโนมอร์ฟให้ขาดเป็นสองท่อนได้ในครั้งเดียว ก่อนจะวกกลับสู่มือเจ้าของโดยอัตโนมัติ

- Shuriken กงจักรคล้ายบูมเมอแรงชนิดนี้ ถูกใช้ใน AVP ตัวกงจักรมีความคม และความเร็วสูง มันทำมาจากวัสดุเดียวกับ Combi stick ที่ทนทานต่อกรดของซีโนมอร์ฟ กงจักรยังสามารถอัพเกรดให้เป็น Smart disc ได้ (ในเกมส์ Predator: Concrete Jungle)

- Netgunปืนตาข่าย มีใช้สองแบบในภาพยนต์ แบบแรกใช้ใน พรีเดเตอร์ภาค 2 เป็นปืนที่ยิงตาข่ายออกมา และแบบที่สองใช้ใน AVP ภาคแรก ซึ่งประกอบอยู่ในอุปกรณ์ที่แขน และสามารถยิงออกมาได้เมื่อต้องการ จุดประสงค์ของตาข่ายทั้งสองแบบเหมือนกัน คือ ใช้เพื่อตรึง และเฉือนร่างของเหยื่อ ตัวตาข่ายมีความคงทนสูง แต่ยังไม่ดีพอในการต่อกรกับกรดของซีโนมอร์ฟ

- Ceremonial daggerมีดขนาดเล็กและทนทานต่อกรดเอเลี่ยนชิ้นนี้ ปรากฎใน AVP มันถูกใช้ในงานจิปาถะต่างๆ

- Katana เป็นอาวุธที่เหมือนดาบยาว ปรากฎให้เห็นในพรีเดเตอร์ภาค 2 โดยพรีเดเตอร์ชั้น Elders เป็นผู้ครอบครองอาวุธชิ้นนี้

- Wire เชือกโปร่งแสงชิ้นนี้ถูกใช้สังหารคณะสำรวจคนหนึ่งใน AVP ภาคแรก

- Whip อาวุธชิ้นนี้ปรากฎใน AVP:R มันใช้เหวี่ยงไปรัดร่างของเหยื่อ และตัดร่างนั้นออกเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย

- Glove & Self-destruct device อาวุธที่ใช้โดยย้วดจานักกวาดล้างใน AVP:R ถุงมือจะทำการรวมรวบพลังงานไว้ จากนั้นก็ปลดปล่อยออกมาในรูปของแรงระเบิดเมื่อพ่ายแพ้ในการต่อสู้ ย้วดจาจะเปิดแผงอุปกรณ์ตรงข้อมือซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นระเบิดเวลาได้ แรงระเบิดของมันพอกับนิวเคลียร์เลยทีเดียว แต่ระเบิดก็สามารถควบคุมให้มีรัศมีที่แคบลงได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดใน AVP:R คือ ฉากที่ Wolf ใช้มันระเบิดเฉพาะยานที่ตกลงมาเพื่อปกปิดหลักฐาน

- Solvent เป็นสารเคมีสีฟ้า มันถูกใช้เพื่อปกปิดหลักฐานที่เกิดขึ้นใน AVP:R สารชนิดนี้สามารถละลายวัตถุทางชีวภาพได้ทุกชนิด มันจะเกิดปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ และจะเกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ต่อวัตถุชีวภาพอื่นๆในบริเวณนั้น

- Laser nets อาวุธชนิดนี้จะสร้างตาข่ายเลเซอร์ และจะตัดร่างของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่คิดจะข้ามผ่าน มันควบคุมให้เปิด-ปิดได้ตามต้องการด้วยรีโมทคอนโทรล จุดประสงค์ของ Laser nets คือ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อหลบหนี ใน AVP : R มันถูกใช้โดยย้วดจานักกวาดล้าง หรือ Wolf เพื่อขังซีโนมอร์ฟไว้ โดยหวังจะปิดบัญชีพวกมันทั้งหมดในคราวเดียว ข้อมูลอาวุธอื่นๆที่ไม่ปรากฎในภาพยนตร์

- Bolas ปรากฏในคอมมิคเรื่อง Predator: Big Game โบลาสจะรวบรวมพลังไฟฟ้าไว้ เมื่อกระแทกใส่ศัตรู มันจะปลดปล่อยพลังงานออกมาทำให้เหยื่อตายทันที

- Burner มันคือเครื่องพ่นไฟอันร้ายกาจ เมื่อถูกใช้งานมันจะพ่นเปลวเพลิงกว้าง 5 ฟุต และยาว 90 ฟุตออกมา ในนิยาย Alien vs. Predator มันมีลักษณะกับไรเฟิลยาว นอกจากนี้มันยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมากในการต่อกรกับซีโนมอร์ฟ เพราะ ไฟคือสิ่งเดียวที่ซีโนมอร์ฟเกรงกลัว แต่มันไม่ค่อยถูกใช้ในการล่าบ่อยนัก แต่มักใช้ในสงครามมากกว่า นอกจากนี้ เครื่องพ่นไฟยังสามารถประกอบเข้าที่หัวไหล่ และสั่งการผ่านรีโมทได้เหมือนกับ shoulder cannon อีกด้วย

- Chemical sprayer สเปรย์ทางเคมีชิ้นนี้ จะพ่นสารที่เป็นพิษออกมา พรีเดเตอร์มักจะใช้อาวุธนี้เพื่อจุดประสงค์ในการจับเป็นเหยื่อมากกว่าจะสังหาร และมันเป็นตัวช่วยที่ดี ในกรณีที่ต้องต้อสู้ในสมรภูมิที่อาวุธพลาสมาไม่อาจใช้ได้ อย่างเช่น บรรยากาศที่ไวต่อการเกิดเปลวเพลิง - Maulเป็นอาวุธใบมีดยาวติดไว้ที่แขน คล้ายทอนฟา ตัวใบมีดยาว 2 ฟุตครึ่ง ใบมีดเหล่าสามารถตัดร่างมนุษย์ให้ขาดเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังใช้แทงจากด้านหลังได้อีกด้วย

- Glaive อาวุธชนิดนี้คล้าย Combi stick เพียงแต่มีใบมีดประกอบไว้ที่ปลายทั้งสองด้านแทน มันสามารถใช้ฟันได้เช่นเดียวกับดาบ หรือใช้แทงเหมือนหอกก็ได้ อาวุธชนิดนี้ รุนแรงพอที่จะบดขยี้หรือตัดกระดูกหนาๆได้อย่างสบาย

- "Hard Meat" armour มันเป็นชุดเกราะที่สร้างขึ้นจากชิ้นส่วนกะโหลกของซีโนมอร์ฟ นอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายของพรีเดเตอร์จากกรดของซีโนมอร์ฟ มันยังช่วยปกป้องพรีเดเตอร์จากการโจมตีอันรุนแรงของราชินีได้อีกด้วย (โดยทั่วไป เมื่อพรีเดเตอร์เผชิญหน้ากับราชินีมักโดน One hit kill กันแทบทั้งนั้น) แต่ถึงกระนั้น มันก็ช่วยแค่ในระดับหนึ่ง เพราะ การโจมตีของราชินีเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถขยี้ชุดเกราะนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับพรีเดเตอร์ถือว่า มันเป็นตัวช่วยอันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง หมายเหตุ : Hard meat เป็นคำเปรียบเปรยในภาษาพรีเดเตอร์ที่หมายถึง ซีโนมอร์ฟ ส่วนคำว่า Soft meat เป็นคำที่หมายถึง มนุษย์

- Plasma pistol รูปร่างของมันเหมือนปืน เป็นอาวุธระยะกลางที่ใช้ยิงกระสุนพลาสมาออกมา คล้ายกับ Plasma caster แต่มีรัศมีที่กว้างกว่า กระสุนแต่ละนัดสามารถรบกวนเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิคส์ และยังสามารถทำให้ซีโนมอร์ฟหมดสติลงได้

- Tag เป็นอุปกรณ์ติดตามขนาดเล็ก ถูกใช้ใน Predator : Concrete Jungle ฉบับคอมมิค โดยพรีเดเตอร์จะฝังอุปกรณ์ชิ้นนี้ลงใต้ผิวหนังของเหยื่อ เพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อ และนำทางไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยของเหยื่อ อุปกรณ์จะมีลักษณะคล้ายตะขอ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อถอดมันออกได้

กับระเบิด

- Fire trap : เป็นกับดักระเบิด

- EMP mine : ใช้รบกวนเครื่องมือทางกลศาสตร์ทุกชนิดในบริเวณนั้น

- Sonic trap : ระเบิดชนิดนี้จะทำให้เหยื่อเป็นอัมพาต และหมดสติ เป็นกับดักที่เลือกเป้าหมายเฉพาะเจาะจง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ใกล้เคียง

- Plasma mine : ทำลายเป้าหมายจนสิ้นซาก และเหลือไว้แต่หัวกะโหลก

- Remote bomb : เป็นระเบิดแบบขว้าง มีตะขอสำหรับยึดติดกับผนัง หรือพื้น โดยจะทำงานเมื่อกระทบเป้าหมาย หรือสั่งการผ่านรีโมทที่ข้อมือของพรีเดเตอร์ เกร็ดเล็กๆน้อยๆ

- เอเลี่ยน กับ พรีเดเตอร์ เคยมีชื่อเรียกเชยๆว่า Star beast กับ Hunter

- Predator ความจริงแล้วต้องออกเสียงว่า เพร็ดเดเตอร์ ไปพูดพรีเดเตอร์กับชาวต่างชาติ เขาไม่รู้จักนะครับ ^^; - ไอเดียที่จุดประกาย AVP มาจาก Predator ภาค 2 ภายในยานช่วงท้ายเรื่อง นอกจากกะโหลกมนุษย์ และT-rexแล้ว เรายังเห็นกะโหลกของเอเลี่ยนอีกด้วย

Credit from http://www.serenadawn.com/ & http://www.predatorworld.tk/

ที่มาของบทความ จากคุณ : wiseman

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7321157/A7321157.html